[Vanguard 101] Clans : Royal Paladin

บทความนี้ผมขอเขียนเกี่ยวกับแคลนต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้เล่นใหม่ และคนที่อยากรู้ว่าแคลนไหนทำอะไรได้ และลักษณะคร่าวๆเป็นยังไง ด้วยตัวผมเองนั้นเพิ่งเริ่มเล่น VG มาได้ประมาณ ปีครึ่ง ฉะนั้นข้อมูลของผมอาจจะอ้างอิงเกี่ยวกับการ์ดสมัยตั้งแต่ชุด BT15 - ปัจจุบัน มากหน่อย หากขาดตกบกพร่องของเก่าสิ่งใดก็ช่วยกันเสริมเติมแต่งกันได้ครับ

โดยที่การเขียนจะแบ่งเป็นหัวข้อดั่งนี้ครับ

1.) Introduction : ว่าด้วยเกี่ยวกับแคลนนั้นเล็กๆน้อยๆ
       1.1.) Nation : แคลนนั้นๆอยู่ประเทศอะไร
       1.2.) Theme : ธีมหลักของแคลนว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
       1.3.) Gameplay : รูปแบบการเล่นหลักๆของแคลนนั้นๆ
       1.3.) Archetypes : ติดชื่อทั้งหมดตั้งแต่อดีตยันปัจจุบัน
       1.4.) Complexity : ความยากง่ายในการเล่นแคลนดั่งกล่าว
2.) Highlight Unit : ยูนิทที่เด่นๆของแต่ละแคลน ผมจะนำมาเสนอในพาร์ทนี้ครับ อาจจะไม่ครบ แต่พยายามจะหยิบยกตัวหลักๆมา (ขอเน้นที่ของเล่นชุดใหม่ๆ และเมต้าในปัจจุบันนะครับ)
3.) Deck Build : สายคร่าวๆเท่าที่ผมรู้จัก ที่สามารถจัดได้และเล่นได้ครับ(เบื้องลึกของแต่ละแคลน แต่ละเด็ค อาจจะต้องรออ่านกันใน Deck Guideline กันครับ)

ตัว Cardfight! Vanguard ตอนนี้ประกอบไปด้วยทั้งหมด 26 แคลนด้วยกัน ก็คือ;

1.) Royal Paladin
2.) Oracle Think Tank
3.) Angle Feather
4.) Shadow Paladin
5.) Gold Paladin
6.) Genesis
7.) Kagero
8.) Nubatama
9.) Tachikaze
10.) Murakumo
11.) Narukami
12.) Nova Grappler
13.) Dimensional Police
14.) Link Joker
15.) Entranger
16.) Spike Brothers
17.) Dark Irregulars
18.) PaleMoon
19.) Gear Chronicle
20.) Granblue
21.) Bermuda Triangle
22.) Aqua Force
23.) Megacolony
24.) Great Nature
25.) Neo Nectar
26.) Clay Element

เรามาเริ่มต้นกันด้วยกันไปเลยดีกว่าครับผม

ROYAL PALADIN 

Nation : United Santuary

Theme : สาวกชายหนุ่ม-หญิงสาวอัศวินเกราะขาว มังกร และสัตว์โลกน่ารัก 

Gameplay : แคลน Royal Paladin ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นการเติมบอร์ดอย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถในการเรียก Superior Call ที่หลากหลาย อีกทั้งยังใช้ความสามารถในการเป็นพระเอก ด้วยการที่ยิ่งมีพวกเยอะเท่าไหร่ ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ฉะนั้นเราจะเห็นความสามารถที่ "เมื่อมีเรียร์เท่านี้ บวกพลัง..." "เพิ่มพลังตามเรียร์ ตัวละ ...." หรือแม้แต่ "เลือกเรียร์...ตัว แล้วบวกพลัง...." เป็นต้น 

Archetypes : 
Alfred
Altmile
Ashlei
Blasters
Jewel Knights
Sanctuary Guard
Sanctuary of Light
Seekers

Complexity : เล่นง่ายมาก เนื่องจากเป็นแคลนที่มีความยืดหยุ่นในตัวเองค่อนข้างสูงอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีของมาซัพพอร์ตมากมาย คงเป็นเพราะเป็นแคลนที่ตัวเอกอย่าง Aichi Sendou เล่น และเป็นแคลนแรกๆที่ปรากฎในอนิเม และยังอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
ด้วยความที่ตัวแคลนเองนั้น มีความ Consistency(คงเส้นคงวา) สูง ทำให้เป็นที่นิยมเล่น และนำมาแข่งเป็นอันดับต้นๆ และแนวทางการเล่นที่สามารถเติมเต็มบอร์ดได้อย่างรวดเร็ว จากหนึ่งตัวเผลอนิดเดียวอาจจะออกมาเต็มบอร์ดในเทินเดียวเลยก็ทำได้

Highlight Unit:

Jewel Knight, Swordmy
ณ เวลานี้ ตัวที่มาแรงที่สุดในแคลน คงหนีไม่พ้นน้องเสือ (โคตร) สุดโกงตัวนี้นะครับ ด้วยความสามารถ [AUTO] เมื่อมันลงมายัง RC เราสามารถจ่าย CB1 ติดชื่อ จากนั้นเสิดการ์ดติดชื่อ "Jewel Knight" เกรดหนึ่งหรือต่ำกว่าลงไป จากเด็คแล้วนำมาลงสนามได้หนึ่งใบ จากนั้นสับเด็ค จะเห็นได้ว่า มันไม่ติดเงื่อนไขอะไรเลยนอกจากติดชื่อ ฉะนั้นเด็คปัจจุบัน ไม่แปลกเลยที่จะเห็นน้องเสือมาคู่กับสาวๆโมเอะชาว Jewel Knight แค่ลงตัวเดียวก็เติมช่องว่างได้ถึงสองช่อง ใครเจอ Royal แล้วเทินสองเจอน้องเสือลงมาก็เหนื่อยกันหน่อยล่ะครับ

Seeker, Thing Saver Dragon(SSD)
อีกหนึ่งตัวเลยนะครับ ที่ถ้าไม่พูดถึงก็คงไม่ได้เลย ต้องขอบคุณท่านไข่คุงจริงๆที่มาเล่นแคลนนี้ ไม่งั้นมันคงไม่ได้เกิดมา(จับแคลนไหน ยืนได้หมด) นั้นก็คือแย้แสงตัวนี้นี่เอง ด้วยความสามารถที่คล้ายๆกับการแสตนด์แวน แต่เงื่อนไขมันน้อยนิดมาก ด้วยการจ่าย CB2 SB3 จากนั้นเสิดตัวเองจากเด็ค และนำมาทับ แล้วทำการลีเจี้ยน ตบซ้ำได้ทันที ด้วยพลัง 22000 (เลขสวยอีก) ผมว่าทุกคนเคยโดนมันกระทืบสามรอบกันทุกคนแล้วใช่ไหมครับ ? คงไม่ต้องพรรณาซ้ำว่ามันโหดขนาดไหน

Blue Sky Knight, Altmile
มาถึงยุค G Gen. มั้งนะครับ สำหรับพี่หล่อคนนี้ ถ้าไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ซะแล้ว เนื่องจากสกิลพี่แกนี่ทำให้การถล่มฝั่งตรงข้ามมันส์อย่าบอกใครเลย โดยเฉพาะถ้าหากโดนพี่แกสไตรด์ก่อนล่ะก็ บอกได้เลย มีพรุนสกัดแน่นอน ด้วยกิลที่ว่าหากมียูนิทสไตรด์ทับตัวนี้ เราสามารถจ่าย CB1 จากนั้นทำการ คอลการ์ด "ถึง" 2 ใบจากมือลงบนสนามจากนั้นเลือกยูนิทสองใบ แล้ว +5000 ด้วยความที่สกิลนี้สามารถเรียกจากบนมือลงมาได้ ฉะนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องเซ็ตอัพบอร์ดไว้เพื่อให้เด็คอย่างคาเงยิงเล่น เหมือนแคลน นีโอ / เกรทเน

Holy Dragon, Saint Blow Dragon
สุดท้าย ยุค G จะเป็น G ไม่ได้เลย หากขาด G Unit ไป และพี่มังกร ขอน้อย ต่อยหนักตัวนี้ถือว่าเป็นตัวพลิกเกมให้ Royal Paladin ได้อย่างดีเลย ด้วยสกิลที่ว่า พลิกตัวเอง จากนั้นตัวมัน +3000 ตามจำนวนเรียร์กาดฝั่งเราในสนาม จากนั้นถ้ามี G-Zone พลิกหน้าอยู่ 2 ใบขึ้นไป และจำนวนเรียร์กาดฝั่งเรามากกว่าสองใบขึ้นไป ตัวมันเอง + 1 Crit แหม่ ขอน้อยจริงๆ แค่สองตัว ก็ต่อยหนักตั้ง 2 คริ ซะแล้ว ขาดไม่ได้ล่ะครับ ในยุคนี้ เป็นของสำคัญจริงๆ และยังเล่นควบคู่กับน้องเสือได้ดีนักแลอีก ลงมาแค่ตัวเดียวก็ทำลูกพี่เราติดคริได้แล้ว



Deck Build :

1.) SSD + Altomile : คงจะเรียกได้ว่าเป็นสายที่เห็นได้มากที่สุดในปัจจุบันเลยทีเดียว โดยการใช้ประโยชน์จาก ไส้เด็ค G1 และ G0 เป็น Jewel Knight เกือบทั้งหมด เพื่อใช้ประโยชน์จากน้องเสือให้ได้สูงสุด ถือว่าเป็นเด็คที่มีความคงเส้นคงวาสูงมาก หาก Saint Blow ตบไม่ตาย เรายังมีไพ่ตายอย่าง SSD ไว้ปิดเกมอีกด้วย
ยูนิทคีย์หลักๆ : Saint Blow Dragon, SSD , Altomile, Swordmy, โครงเด็ค Jewel Knight

2.) MLB + SSD : สายเก่าที่กลับมาเกิดใหม่ อย่าง Majesty Lord Blaster(MLB) สามารถนำกลับมาเล่นใหม่ได้อีกครั้ง เนื่องจากมีของซัพพอร์ตสุดเทพอย่าง Holy Dragon, Religious Soul Saver ทำให้เล่นได้อย่างไม่น้อยหน้าใครเลย อีกทั้งยังสกิลของ MLB ที่นำ Blaster Blade และ Blaster Dark เข้าโซล ทำให้เราเล่นท่า ยืนสองรอบของ SSD ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ยูนิทคีย์หลักๆ : Religious Soul Saver, MLB, Blaster Blade, Blaster Dark, Wingal Brave

3.) Jewel Knight Ashlei "R" : สาย Jewel Knight สุดน่ารักน่าเอ็นดู ถูกนำกลับมาเล่นอย่างแพร่หลายอีกครั้งหลังจากการมาของตัวปลดลิมิต ทำให้ตัว Broken Heart Jewel Knight, Ashlei Reverse ทำเกมได้อย่างรวดเร็ว โดยจ่ายแค่ CB1 จากนั้นทำการล็อคหนึ่งใบ ก็เรียกตัวง่ายๆตัวนึง พร้อมระเบิดฝั่งตรงข้ามอีกด้วยหนึ่งตัว เรียกได้ว่ามีทั้งรุก ทั้งรับในตัวเดียวเลยเชียว
ยูนิทคีย์หลักๆ : Ashlei "R" , Swordmy , Sabalmy(LB Enabler) , โครง Jewel Knight